ก่อนซื้อยางรถยนต์ผู้บริโภคควรทราบถึงข้อมูลพื้นฐานของยางรถยนต์ เช่น ยี่ห้อ รุ่น ไทร์คลาส รวมถึงข้อมูลผลการทดสอบมาตรฐานยางล้อที่สำคัญทั้ง 3 ข้อ ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 2721-2560 (UN R 117) เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และช่วยประหยัดพลังงานได้อีกด้วย

1. ค่าความต้านทานการหมุน (Rolling Resistance) : ยิ่งน้อยยิ่งดี
ยางรถยนต์ที่มีค่าความต้านทานการหมุนต่ำ จะใช้แรงในการขับเคลื่อนที่น้อยกว่า ทำให้ประหยัดพลังงานมากกว่า ซึ่งแบ่งได้ออกเป็น 7 ระดับตั้งแต่ A-G จากประสิทธิภาพสูงสุดไปต่ำสุด

2. ค่าการยึดเกาะถนนพื้นเปียก (Wet Grip Index) : ยิ่งมาก ยิ่งดี
ยางรถยนต์ที่มีค่าการยึดเกาะถนนบนพื้นเปียกที่ดี จะช่วยให้ปลอดภัยได้มากกว่าเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ซึ่งแบ่งได้ออกเป็น 7 ระดับตั้งแต่ A-G จากประสิทธิภาพสูงสุดไปต่ำสุด

3. ค่าระดับเสียงจากยางล้อที่สัมพันธ์ผิวถนน (Noice Measure Value) : ยิ่งน้อยยิ่งดี
เสียงของรถยนต์ที่เกิดจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน หากมีค่าอยู่ในระดับต่ำจะสามารถช่วยลดมลพิษทางเสียงต่อสภาพแวดล้อมได้ ซึ่งนอกจะแสดงข้อมูลด้านตัวเลขแล้ว ยังสามารถแสดงเป็นคลื่นเสียงได้เป็น 3 ระดับ คือ
ระดับ 1 - เสียงเงียบ หรือ เสียงต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด 3 db ขึ้นไป
ระดับ 2 - เสียงปานกลาง หรือ เสียงต่ำกว่า 3 db ถึง ระดับที่กฎเสียงตามที่กฎหมายกำหนด
ระดับ 3 - เสียงดังเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการจำนวน 216 ราย ทั้งผู้ผลิต และผู้นำเข้า ยื่นขอ Eco Sticker สำหรับยางล้อรถ รวม 37,885 รุ่น (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ตุลาคม 2566)

โดยสามารถค้นหาข้อมูล/ตรวจสอบรายละเอียดของยางรถยนต์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการทดสอบตามที่กำหนดได้ที่ www.tyre.go.th

หรือขอรับคำปรึกษาด้านการทดสอบมาตรฐานยางล้อได้ที่ ศูนย์ทดสอบ วิจัยและพัฒนา สถาบันยานยนต์
โทรศัพท์: 02-324-0710 ต่อ 134, 135
Email: tsa@thaiauto.or.th
Line: @thaiauto

ที่มา: www.tyre.go.th

จัดทำโดย: สถาบันยานยนต์