มาตรฐานยูโร 5 รู้จักก่อนเริ่มบังคับใช้ 1 มกราคม 2567 นี้

กระทรวงอุตสาหกรรมบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 วันที่ 1 มกราคม 2567 เพื่อควบคุมสารมลพิษจากรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์ขนาดใหญ่ ได้แก่ รถกระบะ รถบัส และรถบรรทุก ทั้งที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล 

กระทรวงอุตสาหกรรมบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล และรถยนต์ขนาดใหญ่ ได้แก่ รถกระบะ รถบัส และรถบรรทุก ทั้งที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและดีเซล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 พร้อมทั้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดแผนการบังคับใช้มาตรฐานยูโร 6 สำหรับรถยนต์ใหม่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และปัญหาสิ่งแวดล้อมของประเทศในระยะยาว

โดยกระทรวงฯ ได้มอบหมายให้ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ออกมาตรการเพื่ออำนวยความสะดวกผู้ประกอบการในการขอรับใบอนุญาต เพื่อให้ผู้ผลิตรถยนต์เตรียมความพร้อมและวางแผนการผลิตรถยนต์ตามกรอบเวลาที่กำหนดได้ สอดคล้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่มีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้ปล่อยมลพิษออกมาน้อยที่สุด

โดยกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมรถยนต์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2566 แล้วจำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ 

✅ มอก. 3018-2563 
สำหรับรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด หรือรถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก 

✅ มอก. 3043-2563
สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟที่ใช้ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง หรือรถยนต์ก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่ 

✅ มอก. 3046-2563
สำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยการอัด หรือรถยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ 

และจะเริ่มจากการบังคับใช้มาตรฐานยูโร 6 กับรถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์แบบจุดระเบิดด้วยประกายไฟ หรือ รถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน วันที่ 1 มกราคม 2568 ก่อน หลังจากนั้น 1 ปี จะบังคับใช้มาตรฐานยูโร 6 กับรถยนต์ทุกประเภท เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยพัฒนาไปสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ในภูมิภาคอาเซียน เสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยควบคู่กับการรักษาความสมดุลทางสิ่งแวดล้อมสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อเอื้อให้เกิดการลงทุนจากต่างชาติที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาดให้ทัดเทียมกับกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปที่ประกาศบังคับใช้มาตรฐานยูโร 6 แล้วต่อไป

   

ที่มา: สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

จัดทำโดย: สถาบันยานยนต์