1. หากน้ำท่วม ไม่ควรจอดหรือลุยน้ำนานกว่า 30 นาที
รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ควรอยู่ในน้ำ ระดับความลึก 30-40 ซ.ม. หรือ ไม่ควรเกินขอบล่างของรถ นานเกินกว่า 30 นาที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำเข้าสู่พื้นที่ที่มีปุ่มควบคุม ระบบไฟฟ้าของรถ พื้นที่ที่มีตัวเชื่อมต่อไฟฟ้า หรือแม้แต่ ระบบแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับและหยุดทำงาน
ทั้งนี้ รถยนต์ไฟฟ้าแต่ละรุ่นนั้นมีมาตรฐานการกันน้ำและฝุ่น (IP) ของรถยนต์ไฟฟ้า ตามคู่มือการใช้งานผู้จัดจำหน่ายประกอบด้วย เช่น
- มาตรฐาน IP67 โดยเป็นมาตรฐานที่รับรองว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถถูกทิ้งลงในน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตรเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงได้โดยไม่มีปัญหา
- มาตรฐาน IP68 จะสามารถรองรับได้ว่าอุปกรณ์นั้นอยู่ใต้น้ำลึกไม่เกิน 1 เมตรเป็นเวลาสั้น ๆ โดยไม่มีปัญหาเกิดขึ้นกับอุปกรณ์
- มาตรฐาน IP54 เป็นมาตรฐานที่รองรับว่าอุปกรณ์นั้น ๆ สามารถป้องกันฝุ่นได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะมีเศษฝุ่นเล็ดลอดเข้าไป ก็ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์อย่างแน่นอน รวมถึงยังมีการป้องกันละอองน้ำจากทุกทิศทางได้อีกด้วย
2. แนะนำให้ใช้ความเร็วต่ำ ขับขี่อย่างระมัดระวัง เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง
แนะนำให้ใช้ความเร็วต่ำ ขับขี่อย่างระมัดระวัง และควรระวังสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อแบตเตอรี่ หรือ พื้นที่ที่มีตัวเชื่อมต่อไฟฟ้า
3. เช็กอุปกรณ์การชาร์จไฟฟ้า แท่นชาร์จให้แห้งก่อนใช้งาน
ตรวจแท่นชาร์จ หัวปะจุ และสายไฟ ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงเช็ดบริเวณจุดที่ชาร์จให้แห้งก่อนปิดฝา อุปกรณ์การชาร์จ
ที่มา
รายการชัวร์ก่อนแชร์ Motor Check : รถยนต์ไฟฟ้า สามารถลุยน้ำได้ดีกว่ารถทั่วไป จริงหรือ ? https://www.youtube.com/watch?v=RyeIZwJmKA4
ความสามารถในการขับรถยนต์ไฟฟ้า EV ลุยน้ำ https://www.thansettakij.com/motor/ev/573413
ลุยน้ำท่วม รถยนต์ไฟฟ้า EV จะอันตรายแค่ไหน? https://easysunday.com/blog/ev-vehicles-flood-risk/