Exclusive Interview: บริษัท ออโตลิฟ (ประเทศไทย) จำกัด

Autolive Thailand


 

 

บริษัทในเครือของเรากว่า 60 บริษัท ใน 25 ประเทศทั่วโลก เรามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระบบป้องกันในรถยนต์ เช่น ถุงลมนิรภัย เข็มขัดนิรภัย และพวงมาลัย สำหรับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทั่วโลก รวมถึงโซลูชั่นความปลอดภัยในการเคลื่อนที่ อาทิเช่น การป้องกันคนเดินเท้า บริการ และโซลูชั่นความปลอดภัยสำหรับรถจักรยานยนต์และจักรยานอีกด้วย

 

 

 


♦ จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ Autoliv Thailand 


 

 

ความสำเร็จของบริษัท Autoliv Thailand นั้น มาจากการสนับสนุนต่าง ๆ ได้แก่

  1. แรงงานคุณภาพ: ไทยมีแรงงานที่มีคุณภาพและฝีมือดีในหลากหลายอุตสาหกรรม
  2. นโยบายภาครัฐ: ไทยมีกฎระเบียบและนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษและสิทธิประโยชน์ทางภาษี
  3. ที่ตั้งยุทธศาสตร์: ไทยเป็นจุดศูนย์กลางที่ดีในการเข้าถึงตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออก
  4. โครงสร้างพื้นฐาน: ไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเยี่ยม ทั้งในด้านคมนาคม การสื่อสาร และพลังงาน
  5. การพัฒนาอุตสาหกรรม: ไทยมีการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยี การผลิต และการท่องเที่ยว
  6. ความน่าอยู่: ไทยเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดี มีสิ่งแวดล้อมที่ดี และมีค่าครองชีพที่สามารถแข่งขันได้

 

 

 


♦ แนวทางการมุ่งสู่นวัตกรรมการขับเคลื่อนแห่งอนาคตเพื่อความยั่งยืน ของ Autoliv Thailand เป็นอย่างไร


 

 

  1. การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ Automation production line: มาใช้ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้ทรัพยากร
  2. การพัฒนานวัตกรรมในองค์กร: การสร้างองค์กรที่มีความสามารถในการปรับตัวและพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืน เช่น การกำหนดเป้าหมายและแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน และการใช้ผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในและภายนอกองค์กร
  3. การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050

 

 

 


ความยั่งยืนด้าน เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม Autoliv Thailand ให้ความสำคัญด้านใดเป็นอันดับแรก


 

 

บริษัทจะให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจและภาพลักษณ์ขององค์กรเหตุผลที่บริษัทให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม

  1. การลดต้นทุน: การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการลดของเสียสามารถช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้
  2. การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับ: การปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมช่วยหลีกเลี่ยงการถูกปรับและการเสียชื่อเสียง
  3. การสร้างภาพลักษณ์ที่ดี: การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและผู้ลงทุน

นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับด้านสังคมเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนและความเป็นอยู่ของชุมชน นี่คือเหตุผลบางประการที่บริษัทให้ความสำคัญกับด้านสังคม

    1. การสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำ: การส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคมช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากรและบริการที่จำเป็น
    2. การพัฒนาชุมชน: การลงทุนในชุมชน เช่น การสนับสนุนการศึกษาและการฝึกอบรม ช่วยเพิ่มศักยภาพของประชากรและสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง
    3. การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี: การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงานและชุมชนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาว
    4. การสร้างความเชื่อมั่นและความภักดี: การดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความภักดีจากลูกค้าและผู้ลงทุน

 

 

 


ตัวอย่างกิจกรรมในปี 2567  



♦ Autoliv Thailand มีแผนหรือกิจกรรมในการสนับสนุนนโยบายความยั่งยืนอย่างไร


 

 

  1. การลดการใช้พลังงาน: การเปลี่ยนมาใช้ไฟ LED และการติดตั้งระบบการจัดการพลังงานภายในบริษัทเพื่อการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้พลังงานโซล่าร์เชล ในสายการผลิตตอนกลางวัน
  2. โครงการรีไซเคิลและการจัดการขยะ: การส่งเสริมและดำเนินโครงการรีไซเคิลในทุกแผนกของบริษัท รวมถึงการจัดการขยะอันตรายอย่างถูกต้อง
  3. การใช้วัสดุที่ยั่งยืน: การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถรีไซเคิลได้ในกระบวนการผลิต
  4. การฝึกอบรมพนักงาน: การจัดการอบรมเกี่ยวกับความยั่งยืนให้แก่พนักงานเพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือในการดำเนินงานที่ยั่งยืน
  5. การร่วมมือกับองค์กรภายนอก: การสร้างพันธมิตรกับองค์กรที่มีเป้าหมายด้านความยั่งยืนเช่นเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และทรัพยากร

 

 

 


♦ Autoliv Thailand พบอุปสรรค/ปัญหา ในการดำเนินงาน/กิจกรรม เพื่อสนับสนุนนโยบายด้านความยั่งยืน และมีแนวทางหรือการแก้ปัญหาดำเนินการอย่างไร


 

 

  1. ข้อจำกัดทางการเงิน: การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ยั่งยืนอาจมีค่าใช้จ่ายสูง วิธีการแก้ไขปัญหาอาจรวมถึงการขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากภาครัฐหรือการหาพันธมิตรร่วมลงทุน
  2. ขาดความรู้และความเชี่ยวชาญ: การขาดความรู้ในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนอาจเป็นอุปสรรค วิธีการแก้ไขรวมถึงการจัดการอบรมและการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
  3. กฎระเบียบที่ซับซ้อน: กฎระเบียบและมาตรฐานที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งอาจทำให้การปฏิบัติตามเป็นเรื่องยาก วิธีแก้ไขอาจรวมถึงการติดตามและปรับปรุงกระบวนการให้ทันสมัยและการจัดตั้งทีมงานที่มุ่งเน้นในด้านนี้
  4. การจัดการทรัพยากร: การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งท้าทาย วิธีการแก้ไขอาจรวมถึงการประเมินและปรับปรุงกระบวนการผลิตและการดำเนินงานเพื่อลดการใช้ทรัพยากร

 

 

 


♦ การสนับสนุน และการให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืนของประเทศไทยในปัจจุบัน 


 

 

  1. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: การเพิ่มการสนับสนุนด้านความยั่งยืนช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและรักษาสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สำหรับคนรุ่นต่อไป
  2. การพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน: การส่งเสริมความยั่งยืนช่วยสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืน ลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสในการลงทุน
  3. การสร้างสังคมที่เท่าเทียม: การให้ความสำคัญกับความยั่งยืนช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเป็นธรรม

 

 

 


♦ Autoliv Thailand ต้องการให้ภาครัฐสนับสนุนด้านใดในมิติของความยั่งยืน


 

 

การสนับสนุนจากภาครัฐในด้านความยั่งยืนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อนโยบายและการดำเนินงานของบริษัทฯ คือตัวอย่างบางด้านที่ภาครัฐอาจพิจารณาให้การสนับสนุน

  1. การสนับสนุนทางการเงิน: การให้เงินทุนสนับสนุนหรือการลดภาษีเพื่อการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการดำเนินงานที่ยั่งยืน
  2. กฎระเบียบและมาตรฐาน: การกำหนดกฎระเบียบที่เข้มงวดและมาตรฐานในการปฏิบัติที่ยั่งยืน เพื่อให้บริษัทต่างๆ ต้องปฏิบัติตาม
  3. การส่งเสริมความรู้และการศึกษา: การจัดการอบรมและการศึกษาเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนให้แก่บริษัทต่าง ๆ
  4. การสร้างโครงสร้างพื้นฐาน: การพัฒนาและสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการดำเนินงานที่ยั่งยืน เช่น พลังงานสะอาดและการจัดการขยะ
  5. การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา: การสนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน

 

 

 


♦ ปัจจุบันแนวโน้มการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ ปี การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลกระทบมากน้อยอย่างไรต่อการดำเนินงานของ Autoliv Thailand


+ ผลกระทบเชิงบวก

  1. ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: ยานยนต์ไฟฟ้าไม่มีการปล่อยไอเสีย ทำให้ลดมลพิษทางอากาศและช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  2. ประหยัดค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟฟ้าต่ำกว่าการเติมน้ำมัน และการบำรุงรักษายานยนต์ไฟฟ้าก็มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
  3. ประสิทธิภาพการขับขี่: ยานยนต์ไฟฟ้ามีแรงบิดสูง ทำให้การเร่งความเร็วและการขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

- ผลกระทบเชิงลบ

  1. โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ: การขาดแคลนสถานีชาร์จไฟฟ้าในบางพื้นที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า
  2. การจัดการแบตเตอรี่: การผลิตและการกำจัดแบตเตอรี่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และยังต้องการการพัฒนาเทคโนโลยีในการรีไซเคิลแบตเตอรี่

 

 


♦ ความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจ/การเมืองของโลกและประเทศไทย มีผลกระทบต่อการผลิตมากน้อยเพียงใด


 

 

  1. ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น: การเปลี่ยนแปลงของราคาวัตถุดิบ เช่น น้ำมัน เหล็ก และวัตถุดิบอื่นๆ มีผลกระทบโดยตรงต่อค่าใช้จ่ายในการผลิต ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นและส่งผลต่อราคาสินค้า
  2. การนำเข้า/ส่งออก: ความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมืองสามารถส่งผลกระทบต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้า เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน การกำหนดภาษีศุลกากร และการจำกัดการค้า ทำให้การดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศมีความยากลำบากมากขึ้น
  3. ความตึงเครียดทางการเมือง: ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศหรือภายในประเทศสามารถส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค ทำให้การลงทุนและการบริโภคลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตและเศรษฐกิจโดยรวม
  4. การเปลี่ยนแปลงนโยบาย: การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล เช่น นโยบายภาษี นโยบายการค้า และนโยบายสิ่งแวดล้อม สามารถส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการผลิตได้

 

 

 


♦ มุมมองของ Autoliv Thailand คาดว่าทิศทางของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยในอนาคตจะเป็นอย่างไร คาดว่าจะมีผลกระทบหรือไม่


 

 

ทิศทางของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยในปีหน้าและอนาคตมีแนวโน้มที่ดีและมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นี่คือบางประเด็นสำคัญ

  1. การฟื้นตัวของการผลิตรถยนต์: คาดว่าการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 คาดว่าจะผลิตได้ประมาณ 1.95 ล้านคัน และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 2.10 ล้านคัน
  2. การส่งออกที่เพิ่มขึ้น: การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปี 2566 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.8% และในปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 3.7%
  3. การพัฒนาเทคโนโลยี: การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติและการพัฒนาเทคโนโลยีไฟฟ้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตการสนับสนุนจากภาครัฐ: รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์อย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

 

 

 


♦ แนวคิดการดำเนินธุรกิจในอนาคต Autoliv Thailand มีเป้าหมายอย่างไร และมีแผนสนับสนุนความยั่งยืนร่วมด้วยหรือไม่


 

 

แนวคิดการดำเนินธุรกิจในปีหน้า

  1. การเสริมสร้างนวัตกรรม: ลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  2. การพัฒนาทรัพยากรบุคคล: ฝึกอบรมและสร้างทักษะใหม่ให้กับพนักงานเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาต่อไป
  3. การขยายตลาด: แสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ

เป้าหมายการดำเนินงานในอนาคต

  1. ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม: มุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้พลังงานสะอาด และการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ
  2. การสร้างคุณค่าสังคม: สร้างโครงการที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมและชุมชน เช่น การส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาสุขภาพ
  3. การเติบโตทางธุรกิจ: การขยายธุรกิจในระยะยาวด้วยการสร้างพันธมิตรและการรวมธุรกิจใหม่ที่สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืน

แผนสนับสนุนความยั่งยืนในด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม

  1. พลังงานหมุนเวียน: การลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ ลม และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ เพื่อการลดการใช้พลังงานฟอสซิล
  2. การปรับปรุงกระบวนการผลิต: การนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการผลิตเพื่อลดการใช้ทรัพยากรและลดของเสีย
  3. การปลูกป่าและการอนุรักษ์ธรรมชาติ: การดำเนินโครงการปลูกป่าและการอนุรักษ์พื้นที่ธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศน์

 

 

 


บทความโดย บริษัท ออโตลิฟ (ประเทศไทย) จำกัด
Platinum Sponsor งานสัมมนาวิชาการ Automotive Summit 2024