ดีพร้อม ร่วมมือ สถาบันยานยนต์ จัดงานสัมมนา “พลิกโอกาสอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ระบบรางแห่งอนาคต” เพื่อชี้แจงกิจกรรมยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระบบรางรองรับการเปลี่ยนผ่านของระบบห่วงโซ่อุปทานใหม่

กรุงเทพฯ 6 สิงหาคม 2568 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้าจัดงานสัมมนา “พลิกโอกาสอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ระบบรางแห่งอนาคต” เพื่อชี้แจงกิจกรรมยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระบบรางรองรับการเปลี่ยนผ่านของระบบห่วงโซ่อุปทานใหม่ พร้อมเสริมทักษะและพัฒนาด้านเทคโนโลยี หุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติ และดิจิทัล รวมถึงการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปประยุกต์ใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต

นายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก โดยในปี 2566 มียอดการผลิตเป็นอันดับ 10 ของโลกและอันดับ 1 ในอาเซียน อีกทั้ง ยังมีมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3.2 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 18 ของ GDP ประเทศ (สถาบันยานยนต์, 2566) อย่างไรก็ตาม จากปัญหาสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ต้องปรับตัวสู่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทาน ดังนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวและหาโอกาสขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น ระบบราง เครื่องมือแพทย์ และอากาศยาน เป็นต้น โดยเฉพาะระบบขนส่งทางรางถือเป็นระบบขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ต้นทุนต่ำ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านรางและผลักดันขีดความสามารถในการออกแบบและผลิตรถไฟในประเทศโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับโลก

ดีพร้อม ร่วมมือกับ สถาบันยานยนต์ เพื่อพัฒนาและยกระดับบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้สามารถนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงสร้างโอกาสและเชื่อมโยงธุรกิจผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์สามารถปรับตัวเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมระบบรางและการผลิตรถไฟที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล

โดยเชื่อมั่นว่ากิจกรรมดังกล่าว จะสามารถยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมระบบราง และพร้อมปลุกพลังให้ลุกขึ้นมาออกแบบพัฒนาระบบรางให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายของอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนที่เข้มแข็งที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีความพร้อมทั้งมาตรฐานการผลิตและการบริการ มีแรงงานที่มีทักษะฝีมือ ตลอดจนความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบและความปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมระบบราง ขณะเดียวกัน ยังเป็นการก้าวสู่จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ที่ไม่เพียงแต่จะขยายความสำเร็จจากอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อุตสาหกรรมระบบราง แต่ยังเป็นการก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทางรางให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน”ซึ่งสำหรับกิจกรรมฯ ครั้งนี้ ได้มีการจัดสัมมนาเพื่อชี้แจงรายละเอียดการดำเนินงานต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ หรืออุตสาหกรรมสนับสนุนที่เกี่ยวข้องผ่านงานสัมมนา “พลิกโอกาสอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ระบบรางแห่งอนาคต” โดยได้รับเกียรติจาก นายมนตรี วงค์มั่นกิจการ ผู้อำนวยการกองพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวรายงานชี้แนะวัตถุประสงค์และเป้าหมายของกิจกรรม เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการ และบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ สำหรับการปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตรถไฟที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ให้สามารถพัฒนาและยกระดับบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้านเทคโนโลยี หุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติและดิจิทัลอย่างเหมาะสม และสร้างโอกาสในการเชื่อมโยงธุรกิจผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ปรับตัวเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมระบบราง

 

 

และยังได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมากมายมาให้ความรู้ และร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ อาทิ รศ.ดร.โชติชัย เจริญงาม ประธานกรรมการ สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) หัวข้อ “นโยบายและแนวทางภาครัฐต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางอย่างยั่งยืน”  ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ หัวข้อ “อุตสาหกรรมระบบรางไทย: ห่วงโซ่อุปทานและโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทย” ผู้แทนจากผู้ประกอบการด้านระบบราง นายวินัย แย้มโพธิ์ใช้ รองประธาน บริษัท อาเคโบโน เบรค (ประเทศไทย) จำกัด และ นายดำรงค์ ภูอัครนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดำรงศิลป์ ซัพพลายส์ จำกัด ในหัวข้อ “การปรับตัวและความท้ายทายของผู้ประกอบสู่อุตสาหกรรมระบบราง” รวมถึงแนะนำโครงการ “ยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระบบราง” ซึ่งนับว่าเป็นการรวมพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ อันจะนำไปสู่การต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมระบบรางของไทยให้เจริญก้าวหน้าและยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระบบรางในอนาคต

นอกจากนี้ ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ ยังได้กล่าวเชิญชวน พร้อมชี้แจ้งวัตถุประสงค์ของสถาบันยานยนต์ ในการร่วมสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมระบบรางครั้งนี้ ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนและมีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย สามารถปรับตัวเพื่อต่อยอดศักยภาพเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมระบบรางได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากได้รับข้อมูล ความรู้ และแนวทางการพัฒนาที่ถูกต้อง เพื่อปรับตัวไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตระบบรางที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน โดยได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อผู้ประกอบการอย่างเนื่อง

ในขณะนี้ สถาบันฯ ได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการเข้าร่วมการฝึกอบรมบุคลากร "หลักสูตรความรู้พื้นฐานระบบราง" นี้ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมระบบรางตั้งแต่พื้นฐาน องค์ประกอบและชิ้นส่วน รวมไปถึงด้านมาตรฐานและความปลอดภัย ทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ การเยี่ยมชมและศึกษาดูงาน ณ โรงรถจักรธนบุรี รวมถึง จัดสัมมนาเครือข่ายและจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) อีกด้วย 

ซึ่งสถาบันยานยนต์ได้เปิดรับสมัครและคัดเลือก ให้ผู้ประกอบการได้ส่งบุคลากรเข้าร่วมอบรม เป็นจำนวน 3 รุ่น เริ่มรุ่นที่ 1 ในเดือน สิงหาคม 2568 นี้เป็นต้นไป สามารถติดต่อขอรับข้อมูลการสมัครได้ที่ แผนกพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรมยานยนต์ สถาบันยานยนต์ Line: @thaiauto หรือ โทร. 02-712-2414 ต่อ 6030